top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนAmazing Group of friends

4Kings : อาชีวะยุค 90

4Kings อาชีวะยุค 90 กล้าที่จะบอกได้ว่า...เป็นหนังไทยที่ดีที่สุดในปีนี้

 

ชื่อเรื่อง : 4Kings อาชีวะยุค 90

ประเภท : แอคชั่น / ดราม่า / อาชญากรรม

นำแสดงโดย : อารักษ์ อมรศุภศิริ, ณัฏฐ์ กิจจริต, อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี, ภูมิ รังษีธนานนท์

กำกับโดย : พุฒิพงษ์ นาคทอง

กำหนดฉาย : 9 ธันวาคม 2021

ความยาว : 139 นาที

 

ภาพยนตร์น้ำดีที่ตีแผ่สะท้อนปัญหาของสังคมไทยอีกเรื่องหนึ่ง โดยเหล่าผู้สร้างได้มุ่งหวังให้เป็นอุทาหรณ์สะท้อนปัญหาสังคม และความจริงอีกมุมของกลุ่มนักเรียนนักศึกษาสายอาชีพในยุคอดีตที่ผ่านมา โดยถ่ายทอดผ่านเรื่องราวชีวิตของเด็กอาชีวะในยุค 90 กลุ่มหนึ่ง แบบตีแผ่บทเรียนชีวิตที่พวกเขาได้พบเจอ พร้อมนำเสนอตัวอย่างบทเรียนชีวิตที่ก้าวผิดเหล่านั้น



แม้ว่าในปีนี้จะมีปริมาณหนังไทยเข้าฉายตามปกติเพียงน้อยนิด ดูทรงแล้วก็เพียงสิบเรื่องนิดๆ แค่นั้น แล้วแต่ละเรื่องก็สร้างออกมาได้เสริมพลังคำสบประมาทและพลอยทำให้ผู้ชมมองในแง่ร้ายกับหนังไทยไปก็เสียเยอะ แต่ดูเหมือนว่าจะมีหนังไทยส่งท้ายปีเรื่องนี้ ที่น่าจะมากอบกู้สถานการณ์ได้ไม่น้อย เพราะนี่คือ "4Kings อาชีวะยุค 90" หนังแอคชั่นดราม่าจัดจ้านที่ตีแผ่ประเด็นนักเรียนตีกัน ที่เข้มข้นกว่าแค่ประเด็นยกพวกตีกันธรรมดาๆ



"4Kings อาชีวะยุค 90" เป็นหนังที่ยกประเด็นมาเพื่อสะท้อนสังคมและความจริงอีกมุมของกลุ่มนักเรียนนักศึกษาสายอาชีพในยุคก่อน ที่ใครๆ ก็มองว่าพวกเขาเป็นตัวสร้างปัญหาที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งและนองเลือก โดยเล่าเรื่องผ่านเด็กอาชีวะจาก 4 สถาบันหลักๆ ได้แก่ อินทร, ประชาชล, บูรณพันธ์ และ กนก ที่พวกเขามันก่อเรื่องจู่โจมกันแทบทุกครั้งที่เจอหน้า แต่ว่าเพราะอะไรจึงกลายเป็นปัญหาเช่นนี้ และนี่คือบทเรียนชีวิตที่พวกเขาเคยก้าวผิด



หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นการเปิดตัวและชิมลางค่ายหนังน้องใหม่ที่เข้ามาเสริมทัพประดับวงการหนังอีกค่าย นั่นก็คือ เนรมิตหนังฟิล์ม ที่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่จัดจ้านและเปิดตัวค่ายได้อย่างสง่าไม่เบา เพราะว่า 4Kings กลายเป็นหนังไทยที่สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ชมได้ไม่น้อย ทั้งเนื้อหา ทั้งการเล่าเรื่อง ทั้งการแสดง ที่องค์ประกอบต่างๆ ถูกใส่เข้าอย่างได้จังและกลมกล่อมในระดับที่ใช้ได้ นับว่าเป็นหนังไทยที่ให้รสชาติที่อร่อยกำลังพอดี



เราอาจะไม่ได้เคยได้ยินชื่อ "พุฒิพงษ์ นาคทอง" ที่รับหน้าที่เป็นทั้งผู้กำกับและเขียนบทหนังเรื่องนี้ แต่ผลงานชิ้นนี้ได้กลายเป็นมาสเตอร์พีชประดับอาชีพของเขาไปเรียบร้อย ด้วยการใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ที่ถูกใส่เข้ามาอย่างเหมาะสม การเล่าเรื่องที่อาจจะใช้สูตรสำเร็จเข้ามาช่วยเยอะ แต่ปรากฏว่าเป็นความลงตัวที่้เข้ากับตัวหนังพอดี ดราม่าจัดจ้านที่ไม่ได้รู้สึกยัดเยียดเกินเหตุ หรือฉากต่อสู้ตีกันพัลวันก็อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่มากไม่น้อยกำลังพอ



องค์ประกอบต่างๆ ใน 4Kings อาชีวะยุค 90 อาจจะยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์แบบ เพราะยังคงมีช่องว่างและจุดโหว่ปะปนอยู่ตลอดทาง แต่เนื้อหาที่เข้มข้นของหนังก็สามารถช่วยกลบเกลื่อนอุดรอยต่างๆ ได้เป็นอย่างดี จนทำให้ผู้ชมมองข้ามไปในบางจุด โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของหนังนั้น ถือว่าสอบผ่านและทำดีใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการปูเรื่องราวและสร้างมิติให้กับตัวละครต่างๆ



รวมไปทั้งการใส่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เก็บทุกเม็ดของความสภาพสังคมในยุค 90 ที่สัมผัสเห็นได้ถึงงานละเอียดที่ทีมงานและผู้สร้างบรรจงใส่มาทั้งในรูปแบบนามและวัตถุที่้ต้องขอยกนิ้วให้กับการทำการบ้านที่ดีใช้ได้อย่างหนังเรื่องนี้เลย แต่น่าเสียดายที่ในช่วงครึ่งหลังของหนังนั้น ค่อนข้างยืดเยื้อไปนิด ด้วยการใส่นู้นนี่เข้ามามากเกินจำเป็น หากมีการตัดทอนและปรุงแต่งให้กระชับกว่านี้หน่อย ลดไปอีกสัก 10 นาที เชื่อว่าอาจจะดีกว่านี้



และแน่นอนว่าจุดเด่นหลักๆ ของหนังเรื่องนี้คือทีมนักแสดง ที่ต้องยกย่องและยอมใจในการคัดเลือกแคสติ้งชุดนี้เข้ามาประชันบทบาทอย่างถึงพริกถึงขิง ทีมนักแสดงชายของหนัง 4Kings ถือว่าเป็นทีมคุณภาพชุดหนึ่งเลยก็ว่าได้ พวกเขาสามารถขับและบิวต์มิติของตัวละครที่ได้รับเป็นอย่างดี นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่หนังเรื่องนี้สามารถได้นักแสดงที่ถ่ายทอดได้เข้าถึงบทแทบจะทุกตัวละคร



เพียงลำพัง "เป้ อารักษ์" อาจจะไม่สามารถพยุงหนังเรื่องนี้ทั้งเรื่องได้ ถึงแม้ว่าการแสดงของเขาจะไม่ได้แย่เลยก็ตาม แต่กลับได้พลังส่งเสริมที่ดีจากเพื่อนๆ นักแสดงสมทบ ไม่ว่าจะเป็น "ภูมิ รังษีธนานนท์" หรือ "อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี" (จ๋าย ไททศมิตร) โดยเฉพาะรายหลัง ถือว่าเป็นการโชว์ศักยภาพทางการแสดงที่เหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก



หนังยังมี "โจ๊ก-อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ" ที่ไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะเขาเป็นนักแสดงที่เข้าถึงบทบาทกับคาแรกเตอร์แนวนี้ได้ดีอยู่แล้ว และเขาก็ยังเล่นได้ดีตามมาตรฐาน "ทู-สิราษฎร์ อินทรโชติ" ก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนดูได้ไม่น้อย โดยเฉพาะซีนอารมณ์ที่เล่นได้ดีถึงกับขนลุก แต่คนที่โดดเด่นสุดๆ ก็ต้องยกให้ "ณัฏฐ์ กิจจริต" ที่อินเนอร์แรง แอคติ้งได้ และทุกซีนที่มีเขาอยู่ด้วยนั้น ขับอารมณ์ออกมาได้ดีถึงใจ



และนี่ก็น่าจะเป็นเหตุผลที่เราสามารถพูดอย่าเต็มปากได้ว่า 4Kings อาชีวะยุค 90 เป็นหนึ่งไทยที่ดีที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของปีนี้ อีกทั้งยังเชื่อเหลือเกินว่า หนังน่าจะมีบทบาทไม่น้อยบนเวทีแจกรางวัลจากสถาบันต่างๆ ในช่วงต้นปีหน้า เพราะอย่างน้อยๆ ทีมนักแสดงของหนังเรื่องนี้ก็คือความโดดเด่นที่ลงตัว เผลอๆ ที่นั่งประจำสาขานักแสดงนำชายและสมทบชายอาจจะถูกจับจองเอาไว้แล้ว



โดยสรุปแล้วนั้น 4Kings อาชีวะยุค 90 ถือว่าเป็นดราม่าแอคชั่นที่น่าจะมาช่วยลบคำสมประมาทและปรับทัศนคติใหม่ให้กับคนไทยที่มีต่อหนังไทยในยุคหลังๆ และนี่คือหนังไทยที่คนไทยอยากจะเห็นแบบนี้บ้าง แม้ว่าจะมานานๆ ครั้ง ถึงแม้ว่าตัวหนังจะไม่ได้สมบูรณ์แบบไปในทุกๆ องค์ประกอบ แต่จุดเด่นจุดดีของหนังก็ยังมีมากกว่าจุดด้อย เชื่อว่าตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้ คนดูจะคุ้มค่าไปกับการเสพเรื่องราวของพวกเขา


 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม : รีวิวหนัง

ติดตามเนื้อเรื่องอื่น ๆ : รีวิวหนังภาพยนตร์

อ่านเพิ่มเติม : รีวิวหนังดัง




ดู 3 ครั้ง0 ความคิดเห็น
โพสต์: Blog2_Post
bottom of page