การกลับมาคืนจออีกครั้งของโดราเอมอน โนบิตะ และผองเพื่อนคงทำให้เหล่าแฟน ๆ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ๆ หรือผู้ใหญ่ต่างแฮปปี้มีความสุขกันถ้วนหน้า เพราะถือว่าเป็นการ์ตูนที่อยู่คู่กับหลาย ๆ คนตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เรื่องราวความประทับใจยังคงอยู่กับเรื่องราวของพวกเขา ในภาคนี้ได้มีการนำพล็อตเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในภาคที่มีชื่อว่า ไดโนเสาร์ของโนบิตะ (2006)
ซึ่งเป็นเรื่องราวที่โนบิตะนั้นได้ไปเจอกับไข่ไดโนเสาร์โยบังเอิญและใช้ผ้าคลุมแห่งกาลเวลาทำให้ไข่นั้นฟักออกมาเป็นลูกไดโนเสาร์สุดน่ารัก ก่อนจะตั้งชื่อว่า “พิสุเกะ” แต่เมื่อกาลเวลาที่ไม่เหมาะกับการเลี้ยงและการเติบโต ทำให้โนบิตะและผองเพื่อนต้องพาพิสุเกะไปยังยุคไดโนเสาร์
ภาคนี้ก็ใช้พล็อตเรื่องที่คล้ายกัน คือขณะที่โนบิตะเดินชมนิทรรศการไดโนเสาร์ด้วยความตื่นเต้นอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นไข่ไดโนเสาร์ เขานำมันกลับมาที่บ้านและฟักไข่นั้นออกมา แต่คราวนี้มีลูกไดโนเสาร์ตัวน้อย ๆ ถึง 2 ตัว มันเป็นฝาแฝดกัน
โนบิตะตั้งชื่อให้ว่า “มิว” เป็นตัวสีชมพู มีปีก ท่าทางเก่งใช่ย่อย ส่วนอีกตัวมองแล้วก็คล้ายกับโนบิตะที่ดูไม่เอาไหน ตัวสีเขียว บินไม่ได้ ชื่อว่า “คิว” โนบิตะเลี้ยงเจ้าสองตัวนี้ด้วยความรักและความเอ็นดู แต่ก็นั่นแหละเพราะสภาพแวดล้อมในปัจจุบันไม่เหมาะสมกับเจ้าไดโนเสาร์พวกนี้ พวกเขาจึงต้องพากันย้อนเวลาไปสมัยครีเทเชียส แต่กลับเกิดเรื่องราวสุดเสี่ยงอันตรายขึ้นเมื่ออุกกาบาตกำลังพุ่งชนโลก แล้วแบบนี้พวกเขาจะทำยังไงกันดี!
ถือว่าไม่ผิดหวังกับการรอคอยมาอย่างยาวนาน หนังแอนิเมชั่นเรื่องนี้ถือว่าทำได้ดีมาก ๆ จนอยากยกหัวใจให้ไปทั้งดวง แม้ว่าหลายคนอาจจะรู้สึกว่าเอ๊ะ...พล็อตซ้ำแบบนี้ มันจะน่าเบื่อไหม บอกเลยว่าโนจ้ะ เพราะเรื่องนี้มีซับพล็อตที่แตกต่างพอสมควร การเล่าเรื่องที่สนุกขึ้น เข้มข้นขึ้น อีกทั้งยังได้ทีมพัฒนาการทำ 3D ที่สร้างสรรค์งานภาพออกมาได้ปังสุด ๆ ดูกันเพลิน ๆ ภาพสวย ชวนฝันมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ใครยังไม่ได้ตามดู อย่าช้าห้ามพลาดของดีอย่างเรื่องนี้จริง ๆ
ติดตามข่าวสารหนังเพิ่มเติม : รีวิวหนัง
ติดตามเนื้อเรื่องอื่น ๆ : รีวิวหนังใหม่
อ่านเพิ่มเติม : รีวิวหนังภาพยนตร์
Comments